ขับรถขณะฝนตก
|

7 สิ่งต้องทำเมื่อขับรถขณะฝนตก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขึ้นเยอะ

โรงเรียนสอนขับรถนัมเบอร์วัน ไดร์ฟ NUMBER ONE DRIVE SCHOOL สถานที่ตั้งเลขที่ 228 หมู์ที่ 8 ตําบลหนองหญ้าลาด อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33110
โทรศัพท์ : 065 598 3693

ในช่วงฤดูฝนอาจมีฝนตกโปรยปรายได้ทุกเมื่อ ซึ่งถนนที่เปียกลื่นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ จึงขอแนะนำ 7 สิ่งที่ต้องทำขณะขับรถยามฝนตก จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

1. ลดความเร็วลงจากปกติ 

เนื่องจากการพื้นถนนที่เปียกลื่นจะทำให้ระยะเบรกเพิ่มขึ้น ทางที่ดีควรใช้ความเร็วไม่เกิน 80 – 90 กม./ชม. หรือต่ำกว่านั้นหากเป็นการขับขี่ในเมือง จะช่วยให้คุณยังคงสามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา

2. เพิ่มระยะทางจากรถคันหน้า 

ทัศนวิสัยที่ย่ำแย่จากฝนจะทำให้ประสิทธิภาพในการตัดสินใจช้าลง จึงควรเพิ่มระยะทางจากรถคันหน้ามากกว่าปกติ หากรถคันหน้าเกิดเบรกกะทันหัน จะเพิ่มโอกาสในการเบรกหรือหักหลบได้อย่างทันท่วงที

3. เปิดไฟหน้าเสมอ

การขับรถในขณะฝนตกควรเปิดไฟหน้ารถไว้เสมอแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันก็ตาม เพราะการเปิดไฟหน้าจะช่วยให้รถคันอื่นสังเกตเห็นคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน

4. เปิดที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับปริมาณน้ำฝน 

จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้สามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน หากเป็นระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ก็ควรปรับความไวต่อปริมาณน้ำฝน (Sensitivity) ให้เหมาะสมเช่นกัน โดยสามารถศึกษาได้จากคู่มือของรถแต่ละรุ่น

ขับรถขณะฝนตก

5. หลีกเลี่ยงการแซงโดยไม่จำเป็น

 เนื่องจากการเร่งแซงขณะทัศนวิสัยย่ำแย่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงกรณีเป็นรถกระบะที่มีน้ำหนักส่วนท้ายเบากว่าปกติ การเพิ่มน้ำหนักคันเร่งอย่างรวดเร็วอาจส่งผลให้ล้อการเกิดอาการหมุนฟรีจนเกิดอาการเสียหลักได้ง่าย

6. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง

 เนื่องจากทางโค้งถือเป็นจุดอันตรายอย่างยิ่งในขณะฝนตก ควรใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมทุกครั้งก่อนเข้าโค้ง หลีกเลี่ยงการหักเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจนเกินไป เพื่อป้องกันการลื่นไถลที่อาจเกิดขึ้นได้

7. ไม่ลุยน้ำลึกเกินความสูงใต้ท้องรถ

 หากพบว่าเส้นทางข้างหน้ามีน้ำท่วมขัง ควรประเมินระดับความลึกของน้ำก่อนเสมอ ทางที่ดีระดับน้ำจะต้องไม่เกินความสูงใต้พื้นรถ จะช่วยให้สามารถลุยน้ำได้อย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องโดยสาร

 หากผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติได้ตามข้อแนะนำข้างต้นแล้วล่ะก็ รับรองว่าสามารถขับรถไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยแน่นอนไม่ว่าจะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *